ชีวประวัติหลวงพ่อ "วิริยังค์ สิรินฺธโร  ตอน กำเนิดเด็กชายวิริยังค์ บุญฑีย์กุล

ชีวประวัติหลวงพ่อ "วิริยังค์ สิรินฺธโร ตอน กำเนิดเด็กชายวิริยังค์ บุญฑีย์กุล

18 กรกฎาคม 2565, 07:00 น.

1,692

แชร์:
กำเนิดเด็กชายวิริยังค์

ณ สถานีรถไฟปากเพรียว (สถานีสระบุรีในปัจจุบัน) จังหวัดสระบุรี อันเป็นดินแดนที่เด็กชายวิริยังค์ บุญฑีกุลได้อุบัติบังเกิดขึ้นมาต่อสู้ชีวิตเพื่อความอยู่รอดในโลก ที่ใคร ๆ เขากล่าวกันว่าโลกนี้น่าอยู่ น่าอาศัย เป็นโลกแห่งความศิวิไลซ์ ทำให้ผู้มัวเมาหลงใหล ติดอกติดใจ เมื่อตายจากไปแล้วยังปรารถนากลับมาเกิดใหม่อีก คือการเวียนเกิดเวียนตายหาที่สิ้นสุดมิได้ แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเสด็จอุบัติบังเกิดขึ้นมาเพื่อค้นหาทางหลุดพ้นจากโลก เมื่อทรงค้นพบแล้วทรงตรัสบอกทางหลุดพ้นนั้น แก่บุคคลทั้งหลายผู้ไม่มัวเมา ผู้ไม่หลงไหล ผู้ไม่ติดใจในโลก และทรงตรัสเตือนไว้ว่า “โลกนี้เปรียบเสมือนราชรถที่พวกคนเขลาหมกอยู่ แต่ผู้รู้หาข้องอยู่ไม่ และสัตว์ทั้งหลายย่อมเกิดและตายเป็นไปตามกรรม”

ด้วยเหตุดังนี้จะด้วยกรรมเก่าบันดาลหรือด้วยบุญกุศลช่วยเกื้อหนุนทำให้เด็กชายวิริยังค์ ได้มาเกิด เมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ.2463 ในครอบครัวของนายสถานีรถไฟปากเพรียว คือ ท่านขุนเพ็ญภาษชนารมณ์ผู้เป็นบิดา และมารดาชื่อ นางมั่น บุญฑีย์กุล ท่านเป็นลูกชายคนที่ 5 ในจำนวนพี่น้อง 7 คน คือ

1.     ด.ญ.กิมลั้ง บุญฑีย์กุล (ชูเวช)

2.     ด.ช.ฑีฆายุ บุญฑีย์กุล

3.     ด.ช.สุชิตัง บุญฑีย์กุล

4.     ด.ช.สุจจัง บุญฑีย์กุล

5.     ด.ช.วิริยังค์ บุญฑีย์กุล (พระราชธรรเจติยาจารย์)

6.     ด.ช.ไชยมนู บุญฑีย์กุล

7.     ด.ญ.สายมณี บุญฑีย์กุล (ศรีทองสุข)

นับตั้งแต่เด็กชายวิริยังค์เกิดมาก็ต้องต่อสู้ชีวิตเพื่อความอยู่รอดเหมือนดังคนทั้งหลาย มีสุข มีทุกข์ มีหัวเราะ มีร้องไห้ มีเสียใจ มีเศร้าใจ มีรักใคร่ มีโลภ มีโกรธ มีหลงลืมเป็นธรรมดาตาประสาเด็กโดยทั่วไป หลังจากบิดารับราชการเป็นนายสถานีรถไฟปากเพรียว จังหวัดสระบุรีนานพอสมควรแล้ว ทางการได้สั่งย้ายมารับตำแหน่งเป็นนายสถานีรถไฟบ้านใหม่สำโรง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ท่านขุนผู้เป็นบิดาจึงได้ย้ายครอบครัวมาอยู่ที่บ้านใหม่สำโรง ซึ่งถือว่าเป็นความโชคดีของครอบครัวเด็กชายวิริยังค์อย่างยิ่งที่ได้มาพบพระอาจารย์กงมา จิรปุญโญ ผู้เป็นศิษย์รูปสำคัญของหลวงปู่มั่นที่ผ่านการฝึกปฏิบัติสมาธิมาแล้วทำให้พระอาจารย์กงมากลายเป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ มีความสามารถทำหน้าที่เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้าคือ การเผยแพร่ธรรมะแก่สาธุชนทั้งหลายพร้อมกับได้มาสร้างวัดป่าสว่างอารมณ์ ณ บ้านใหม่สำโรง เพราะฉะนั้นพระอาจารย์กงมาท่านจึงได้สั่งสอนตั้งแต่พิธีกรรม การสวดมนต์ไหว้พระ การรักษาศีล การนั่งสมาธิ ทำให้ชาวบ้านได้รับผลแห่งการปฏิบัติมีความสุขสงบใจ ชาวบ้านก็ศรัทธาเลื่อมใสเคารพเชื่อฟังมาปฏิบัติธรรมตามโอกาสที่อำนวย ครอบครัวของเด็กชายวิริยังค์ก็เช่นเดียวกัน พ่อแม่ของเขาก็ทำบุญตักบาตร เข้าวัดฟังธรรม รักษาศีล นั่งสมาธิในวันพระเป็นประจำ แต่เด็กชายวิริยังค์เป็นเด็กเกินไปเลยไม่สนใจดังเช่นผู้ใหญ่ ชอบเล่นชอบเที่ยวสนุกสนาน ไม่ต่างจากเด็กทั่วไป

วันหนึ่งบิดาของเขาได้รับคำสั่งให้ย้ายไปปฏิบัติราชการที่จังหวัดอุบลราชธานี ประจำอยู่ที่สถานีรถไฟวารินชำราบ ท่านยึงได้ย้ายครอบครัวไปอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี ส่วนเด็กชายวิริยังค์พ่อแม่ก็นำไปสมัครเรียนที่โรงเรียนวัดสุปัฏตนาราม ซึ่งเป็นโรงเรียงที่มีชื่อเสียงในขณะนั้น ทำให้เด็กชายวิริยังค์ได้เรียนรู้หลายอย่าง ทั้งกีฬาและสมัครเป็นลูกเสือชาวบ้าน แม้กระทั่งเข้าโบสถ์ฟังธรรมในวันพระหรือวันธรรมสวนะ แต่เด็ก ๆ ทั้งหลายก็ไม่สนใจจะหาทางหลีกเลี่ยงหลบหนีไม่ไปเข้าโบสถ์ฟังธรรม แม้เด็กชายวิริยังค์เองก็เช่นเดียวกับเด็กทั้งหลาย พอหลบหนีได้ก็หลบไป ส่วนการสมัครเป็นลูกเสือก็ต้องมีการฝึกหัด ทั้งเข้าค่ายพักแรมและว่ายน้ำ เพื่อให้ลูกเสือรู้จักวิธีช่วยเหลือผู้อื่นได้ ซึ่งต้องไปฝึกซ้อมว่ายน้ำในแม่น้ำมูลที่อยู่ใกล้โรงเรียนเป็นประจำ


เครดิต : หนังสือชีวิตต้องสู้